สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการให้อาหารสุนัข

เคยสังเกตไหมคะ ว่าทำไมเจ้าตัวน้อยที่เลี้ยงโตมาด้วยกัน ทำไมจึงมีนิสัยด้านการกินที่แตกต่างกัน อีกตัวอาจจะกินง่ายอยู่ง่าย หม่ำทุกอย่างที่ขวางหน้า ในขณะที่อีกตัวกินยากกินเย็น กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้กินได้ ช่างแสนลำบาก แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าเรื่องอาหารการกินนั้นส่งผลต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน เจ้าตัวน้อยบางตัวกินนิดๆ หน่อยๆ แต่กลับไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพเลย ตรงข้ามกับอีกตัวที่กินทุกอย่าง แต่กลับอุดมไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บจนแทบจะลดความอ้วนไม่ทัน ซึ่งโดยทั่วไปเจ้าตัวน้อยมักจะมีกิจวัตรประจำวันที่ซ้ำๆ สิ่งที่เรียกความสนใจได้มากที่สุด จึงไม่พ้นเรื่องกิน เจ้าตัวน้อยมีความรู้สึกอยากอาหารไม่ต่างกับคน ช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดจึงไม่พ้นเวลาอาหาร  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าตัวน้อยบางตัวจะชอบอ้อนขออาหารทุกครั้งที่เห็นเจ้าของ ซึ่งนั่นแสดงว่าเจ้าตัวน้อยของคุณถูกตามใจปากเสียจนเคยตัว การกินจุบจิบเกินความต้องการจะส่งผลให้เจ้าตัวน้อยเป็นโรคอ้วน ว่ากันว่า 1 ใน 3 ของเจ้าตัวน้อยที่มีเจ้าของเข้าข่ายเป็นโรคอ้วน ในการให้อาหารแต่ละครั้งเจ้าของจึงต้องแน่ใจว่าอาหารแต่ละมื้อนั้นมีสาร อาหารที่ครบถ้วน และพอดีต่อความต้องการพลังงานในแต่ละวัน

Do

• ในการให้อาหารสดนั้น ความยากอยู่ตรงการจัดสรรเมนูให้พอเหมาะกับความต้องการ เพราะหากคุณไม่ใช่นักโภชนาการหรือผู้เชี่ยวชาญก็ยากที่จะรู้ว่าอาหารประเภทไหนมีแคลอรี่เท่าไหร่ หรือให้พลังงานมากน้อยแค่ไหน อาหารสำเร็จรูปจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
• หากเจ้าตัวน้อยเริ่มเบื่อหน่ายรสชาติเดิมๆ ควรผลัดเปลี่ยนให้ลองชิมรสชาติใหม่ๆ บ้าง เพื่อให้เจ้าตัวน้อยกินง่ายขึ้น
• ผักและผลไม้ก็มีความจำเป็นสำหรับเจ้าตัวน้อยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แครอท ผักกาด และแอปเปิ้ล ซึ่งมีวิตามินที่จำเป็นหลายชนิด
• จ้าตัวน้อยที่เริ่มอ้วน เจ้าของควรลดอาหาร โดยให้อาหารแคลอรี่ต่ำประมาณ 60% ของแคลอรี่ที่ต้องการในแต่ละวันตามน้ำหนักตัวมาตรฐาน
• ในการจัดอาหารควรมีน้ำสะอาดให้เจ้าตัวน้อยดื่มคู่กันด้วยและอาหารที่ให้ควรมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง
• เจ้าตัวน้อยที่ไม่ยอมหม่ำอาหารเกินกว่า 24 ชั่วโมง เจ้าของอาจต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าตัวน้อยกำลังป่วย
  
• ปล่อยให้เจ้าตัวน้อยวิ่งเล่นอย่างอิสระ หรือพาไปเดินเล่น เพื่อเป็นการออกกำลังกายและเพื่อสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้เจ้าตัวน้อย
  
  

Don't

• การให้อาหารพร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะในเวลาที่เจ้าตัวน้อยอ้อนขอกิน จะสร้างพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและทำให้เกิดโรคอ้วนได้
• การปล่อยให้เจ้าตัวน้อยกินอาหารชามเดียวกัน อาจสร้างความก้าวร้าวหวงของ หรือทำให้อีกฝ่ายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ทางที่ดีควรแยกชามอาหารสำหรับของแต่ละตัว
• ห้ามให้อาหารแมวกับเจ้าตัวน้อย เพราะในอาหารแมวมีโปรตีนสูงเกินไปสำหรับเจ้าตัวน้อย
• การตามใจให้เจ้าตัวน้อยเลือกกินมากเกินไป จะทำให้เจ้าตัวน้อยเสียนิสัย ในการฝึกเมื่อถึงเวลาอาหารแล้วเจ้าตัวน้อยไม่สนใจหม่ำ เจ้านายควรยกอาหารออกไปเลยโดยไม่ต้องสนใจว่าเจ้าตัวน้อยจะกินหรือไม่ เพราะในที่สุดเขาจะเรียนรู้และกินตามที่จัดให้อย่างไม่มีเงื่อนไข
• ไม่ควรให้อาหารที่มีน้ำติดต่อกันในมื้อต่อไป ควรเปลี่ยนอาหารมื้อต่อมื้อ เพราะอาหารเหลวเน่าเสียง่ายกว่าอาหารแห้ง
• ให้อาหารเจ้าตัวน้อยมากกว่า 2 มื้อต่อวัน จะทำให้เจ้าตัวน้อยเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน โดยเฉพาะพวกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย นั่นเท่ากับเป็นการสะสมไขมันไปในตัว
• เจ้าตัวน้อยที่เข้าสู่วัยทอง เรียกให้เข้าใจง่ายก็คือเจ้าตัวน้อยสูงวัย ควรเลี่ยงอาหารที่ให้แคลอรี่สูง เพราะเป็นวัยที่ให้พลังงานน้อย ไม่ต่างจากคนอย่างเราๆ